1554 Better late than never.

บนทางฝัน แน่นอนว่าอุปสรรคจะต้องเวียนเข้ามาทักทาย เม่นน้อยในอ้อมแขนพร้อมสลัดขนแหลมทำร้าย ... ถ้าเลือกจะทำแล้ว อดทนเท่านั้น

Sunday, October 01, 2006

อีกนาทีก็สายเสียแล้ว

"พรุ่งนี้ก็สายเสียแล้ว"

ฉันเป็นคนผลัดวันประกันพรุ่งมาตั้งแต่เด็ก การบ้านจะถูกทำในช่วงเวลาที่ควรนอน ทำให้ดูเหมือนมีการบ้านเยอะ แต่ความจริงแล้ว ฉันเอาเวลาไปทำอย่างอื่นมากกว่า น่าเสียดายที่การนอนดึกของฉันในวันนั้น เป็นคนละประเด็นในวันนี้ วันนี้ฉันนอนดึกเพราะเขียนหนังสือ

ที่เสียดายเพราะ..ฉันอยากเหลวไหลอีกครั้ง เวลานั้น มีความสุขลึกๆนะ ที่ได้ปั่นงานหลังจากดูการ์ตูน ละคร และวาดรูปเล่นแต่ด้วยสมองที่แก่ตัวลง บอกว่า พรุ่งนี้ก็สายเสียแล้ว ฉันกลับไปทำคล้ายๆแบบนั้นยากแล้ว

ตอนที่เรียนปริญญาตรี..ฉันเผางานทุกคืน เพื่อให้ทันส่งอาจารย์ในรุ่งเช้า เชื่อไหมว่าฉันทำงานต่อรายวิชาประมาณสองถึงสามชิ้น เพื่อเอามาเลือก หลายครั้งที่ฉันเลือกงานที่ทำเสร็จชิ้นแรกๆ แต่ก็มีที่งานชิ้นสุดท้ายสวยกว่า แต่นั่นแหละ การเผางานไม่ได้หมายถึงคนที่ทำต้องเหลวไหลนะ ฉันพยายามเรียนให้ได้รู้เรื่องมากที่สุด

จำได้ว่า มีคืนหนึ่ง อาจารย์สั่งให้เพ้นสีน้ำมัน เราลักไก่ด้วยการเพ้นอาคิลิกด้วย ผลออกมา เราควบคุมเนื้อสีไม่ได้ คิดๆไม่น่าเลยจริงๆ แทนที่จะเสร็จเร็ว ดันหงุดหงิดเข้าให้ เราไม่เก่งเรื่องเทคนิค จึงตัดสินใจ วาดใหม่ ไม่ใช้ลินสีด...สีไม่แห้ง ต้องเอาพลาสิกปะหน้า

ตอนเอามาเปิดส่งอาจารย์ โอยลำบาก ระวังเพื่อนๆแสนซนมาชนมาก จะบอกว่า เฮ้ย สี ยังไม่แห้งโว้ย...

มาเรียนปริญญาโท สันดานเดิมๆยังไม่หาย แต่ดีที่เรียนน้อยกว่ามาก ฉันเรียนประวัติศาสตร์ศิลป์ ไม่ต้องวาดรูป ขอแค่อ่านหนังสือ ฉันอ่านหนังสือมากกว่าแต่ก่อน แสนเท่า แต่ก่อนนิยมดูรูปมากกว่า...เหนื่อยสายตา และปวดหัวมาก

อาจารย์พูดกรอกหูทุกวัน..คุณต้องอ่านหนังสือมากๆ สำหรับคนที่ไม่ค่อยรู้หนังสืออย่างฉัน การมาเริ่มต้นที่นี่ มันหนักหนาเอาเรื่องอยู่...เหนื่อยมาก จะขี้เกียจก็ไม่ได้ ทำรายงานไม่สามารถเผาก่อนส่ง มีแต่ต้องทำให้สมบูรณ์เท่านั้น

ฉันใช้เวลาหาข้อมูลทำรายงาน และเขียนมันในคืนก่อนส่ง สามวัน เห็นไหม เรานิสัยดีขึ้น ทำเสร็จก่อนส่ง แต่ไม่วายต้องมีแก้ไขจุกจิก อยู่ดี

วันนี้ วันที่ไม่ต้องเรียนหนังสือแล้ว ฉันอ่านหนังสือของนักเขียนวรรณกรรมเยอะ(มันก็ยังน้อยหรอก)กว่าแต่ก่อน อ่านแล้วคิด คิดแล้วเขียน ไม่อยากให้ความฝันที่เปลี่ยนตอนเรียน ปโท ต้องพังลง

อีกนาทีก็สายเสียแล้ว

อย่ารอถึงวันพรุ่งนี้เลย ทำงานดีกว่า

8 Comments:

Blogger นุ่น said...

จริงด้วย
อีกนาทีก็สายเสียแล้ว
งั้นนุ่นไปล่ะนะ ^-^

ป.ล. อยากเรียนศิลปะบ้างจัง น่าสนุก

1:27 PM  
Blogger keerati said...

ใช่สนุกดี อ้อยชอบมาก

เรียนแล้ว ได้ทำงาน ได้กลิ่นสี ทินเนอร์ หอมๆๆ

ยิ่งตอนปั้นดิน โอย มือนี่นุ่มขึ้นเลยนะ

ใครว่าทำงานหนักแล้วมือหยาบ ขอเถียง

มือเรานุ่มมาก

วิ้วว เหมาะว่าเรานวดดินกะเพื่อนหน่ะ เพื่อนเป้นผู้ชาย ส่วนใหญ่เขานวดให้เรานะ


ยินดีมากที่ได้รู้จักนุ่นนะ

1:34 PM  
Anonymous Anonymous said...

พรุ่งนี้ก็สายเสียแล้ว
นี้เป็นคำพูดของอ.ศิลป์ พีระศรีหรือเปล่าครับ
เราชอบนะ
เป็นคำพูดที่ให้เรารีบเร่งทำๆๆๆ
ไม่ปล่อยคืนวันให้ผ่านไปโดยไม่ได้ทำ

เราได้สายไปแล้วในบางเรื่อง
คงเป็นแง่คิดว่าต้องไม่ให้สายไปอีกในวันพรุ่งนี้
และวันพรุ่งนี้ก็ทำงานตามปกติ
คงได้แลกกันอ่านกันนะครับ
ถ้ามีโอกาสได้เขียน

ปล.เพลงนั้นแก้แล้วน่าจะฟังได้นะครับ

10:54 PM  
Blogger keerati said...

ใช่แล้วค่ะ เขียนติดเต็มมหาวิทยาลัย

หันไปทางไหนก็ย้ำว่าต้องทำงาน

อ้อยขี้เกียจน้อยลงไปโข

ขอบคุณมากนะคะ

11:02 PM  
Anonymous Anonymous said...

...
..
.

มีแต่วันนี้ทีมีค่า

ไม่มีวันหน้าหรือวันหลัง

เมื่อวานก็สายเกินแก้...

พรุ่งนี้ก็สายเกินไป..


ป.ล. ท่าทางเราจะเป็นพี่น้องสถาบันเดียวกันแล้วล่ะ (รุ่นไหนเนี่ย เรา 38)

8:10 PM  
Blogger keerati said...

อือออออ


อ้อย อยู่โบราณคดีค่ะ


ป โท


คุณไก่ย่าง


รหัส 47 นะ

10:29 PM  
Anonymous Anonymous said...

...
..
.

อ่า.. คนละรุ่น..

..

คนละคณะ.. แต่ยินดีที่ได้รู้จัก..



(^o^) เทคๆ

...

4:15 PM  
Blogger keerati said...

ยินดีค่ะ


ยินดีๆ

9:46 PM  

Post a Comment

<< Home