1554 Better late than never.

บนทางฝัน แน่นอนว่าอุปสรรคจะต้องเวียนเข้ามาทักทาย เม่นน้อยในอ้อมแขนพร้อมสลัดขนแหลมทำร้าย ... ถ้าเลือกจะทำแล้ว อดทนเท่านั้น

Tuesday, November 14, 2006

บางสิ่งที่มากับลมหนาว




เสียงนาฬิกาไขลานบอกเวลา

...*...*...*...*...*...*...*...*...*...*...

เสียงเหง่งหง่างจำนวนสิบครั้ง นี่คือเวลาสี่ทุ่ม เวลานี้เป็นเวลาที่ลมพัดกลิ่นหอมแปลกๆมาทางหน้าต่าง ผ้าม่านไหวพริ้มไปตามจังหวะ จนสังเกตทิศทางซ้ำๆได้อย่างหลับตาเห็น ราวกับว่า ลมที่พัดเข้ามานั้นมีจังหวะเดิมๆไม่เคยเปลี่ยนเลยสักครั้ง

ฉันเจ็บระบมบริเวณจมูก มันเป็นอาการของไซนัสอักเสบ ฉันชินกับอาการแบบนี้มานานกว่าปีแล้ว เมื่อมีอากาศเย็น และความชื้น นั่นจะทำให้ไม่สบายแบบนี้อยู่ออกบ่อย คนรอบข้างต่างรู้ดีถึงความอ่อนแอของร่างกาย และสุขภาพที่สะสมโรคขึ้นตามอายุ มีเพียงเขาที่ไม่เคยรู้ เขาจำใบหน้าสุดท้ายของฉันเมื่อปีไหนกัน...มันยาวนานจนจำได้เพียงแค่ว่า มันผ่านมานานมากเกินจะจำได้แล้ว

กลิ่นของดอกไม้ผสมกับกลิ่นสีจากโรงงานซ่อมรถ ผสมกันจนไม่ได้เรื่อง แต่ฉันก็หวังจะดอมดมกลิ่นจางๆของดอกไม้ที่หอมเพียงฤดูหนาวนี้เท่านั้น ...เนิ่นนานกว่าที่ต้นพญาสัตตบรรณจะส่งสัญญาณหอมเย็นๆไม่ว่าจะต้องเจือด้วยกลิ่นอื่นใดก็ตาม ก็ยินดีที่จะต้อนรับเอามาเป็นส่วนหนึ่งของลมหายใจ

ฤดูที่ทำให้การก้าวย่างเท้าของฉันช้าลงเห็นจะเป็นที่ฤดูหนาว รายทางต่างๆมักทำให้ฉุกคิดถึงเรื่องที่เคยผ่าน ใครกันที่จะไม่เคยคิดถึงอดีต ทั้งที่ทำร้ายจิตใจ และส่งเสริมให้หัวใจได้มีรอยยิ้ม ฉันลืมยากมาก...และเต็มใจที่จะจดจำ

เมื่อปลายปี พ.ศ.2532 เป็นปีที่อากาศหนาวแสนเศร้า..ครอบครัวเราไม่มีเตาผิง

ความหนาวกัดกินครอบครัวจนทุกคนต่างเข้าใจได้ดีถึงความหนาวที่เรียกว่า หนาวเข้ากระดูก จะมีอะไรกันเล่าที่จะทำให้หายหนาว ความอบอุ่นจากที่ใดหรือ ในเมื่อเราไม่มีสิ่งนั้น ฉันสร้างความอบอุ่นในโลกเล็กๆ มีหนังสือคณิตศาสตร์ที่ไม่ค่อยชอบเรียน แต่ดีที่มีความหนา เอามาเป็นบ้านของตุ๊กตากระดาษ

ตุ๊กตากระดาษแผ่นละ 2 บาท ถ้าอยากได้รูปที่สวยกว่าก็จะมีราคา 3 บาท( นี่ขนาดของเล่นเด็กประถม ยังมีชนชั้นเลย) ตุ๊กตากระดาษจะมีชุดให้เปลี่ยน มีหมวกให้สวม ฉันแกะออกจากแผ่นกระดาษ ติดทับร่างบอบบางของตุ๊กตาผมทอง วันนี้เธอจะไปงานเลี้ยง

กระโปรงสุ่มลายลูกไม้ ช่างชวนฝันถึงเจ้าหญิงเหลือเกิน ฉันเก็บตุ๊กตากระดาษในหนังสือคณิตศาสตร์ จนบวมปริ ในนั้นมีครอบครัว มีพ่ อ แ ม่ ลูก เพื่อนบ้าน และญาติพี่น้อง จำได้ว่าตั้งชื่อด้วยการเขียนด้วยดินสอกำกับเอาไว้ ชื่อก็มาจากคนที่รักทั้งสิ้น

เวลาที่ใจสงบนิ่ง อย่างน้อยก็ร้อนรนน้อยลงนั้น ทำให้ได้พบบางสิ่งที่เรียกว่าตะกอน ...ตะกอนความคิด เป็นสิ่งที่ช่วยให้ได้ทบทวนและไตร่ตรองเรื่องว้าวุ่นนานา และฉันมักทำได้ในฤดูหนาว

บางสิ่งที่มากับลมหนาว นั่นคือความคิดถึง
คิดถึงตุ๊กตากระดาษ ครอบครัวที่ถูกอัดแน่นในหนังสือคณิตศาสตร์เล่มนั้น
ป่านนี้ความหนาวจะสามารถทดสอบความอบอุ่นที่มีได้อย่างไรไหม

สำหรับฉัน ในยามนี้ ลมหนาวไม่สามารถทำให้ฉันโหยหาความอบอุ่น เพราะฉันค้นพบมันแล้ว


เสียงนาฬิกาไขลานบอกเวลา
...*...*...*...*...*...*...*...*...*...*... *...
เสียงนาฬิกาเพิ่มจำนวนครั้งที่ตีเป็นสิบเอ็ดครั้ง

ความหนาวเร่งเร้าความคิดถึงอย่างอบอุ่น มาชดเชยให้แล้ว

ถึงแม้ว่าเขาจะจำฉันได้เพียงตอนเป็นเด็กน้อยเท่านั้นฉันก็สุขใจ


5 Comments:

Anonymous Anonymous said...

MSNของเราป่วยเกินเยียวยา ไม่อาจส่งข้อความไปได้
ใจหายเหมือนกันที่จะไม่ได้MSNด้วยกันอีก

ขอให้อ้อยโชคดีกับการเดินทาง ความรัก และงานเขียนนะ
จะตามเข้ามาอ่านเสมอ
white

11:43 PM  
Anonymous Anonymous said...

เขียนดีนะจ๊ะ
สวยงาม ละเมียดละไม
เจือความเหงานิดๆ
แต่ไม่มากไม่น้อยเกินไป
ชอบอารมณ์ของเรื่องมากๆ
เขียนเก่งขึ้นทุกวันนะน้อง :)

12:40 AM  
Anonymous Anonymous said...

จับกลิ่นลมหนาวมาเขียนให้อุ่นเลยนะปลายฝน

ธรรมชาติทำงานแตกต่างกันไปตามฤดูกาล
หน้าที่ของผมยังเหมือนเดิม
ชีวิตยังเหมือนเดิม

แต่ฤดูกาลก็ช่วยให้เราตื่นเต้นและหวาดกลัวได้เสมอๆ

12:17 AM  
Anonymous Anonymous said...

มารออ่านเรื่องที่อ้อยจะเล่า
white

1:37 AM  
Anonymous Anonymous said...

...
..
.

สู้ๆ นะน้องนะ

...

2:04 PM  

Post a Comment

<< Home