สงบสุขในความฝัน
สิ้นเสียงนาฬิกาสั่นบอกเวลาสุดท้ายของศักราชปัจจุบัน อีกลมหายใจข้างหน้า จะมอบให้แก่ปีถัดไป ....ลมหายใจของผู้มีชีวิตรอด มันช่างน่าพิสมัยและเป็นที่ปรารถนาของผู้คนในเวลานี้ ในฐานะที่จะได้มีโอกาสรับรู้ความเป็นไปของสังคมที่ไม่มีวันล่วงรู้ได้เลยว่า ระเบิดจุดต่อไปจะเกิดขึ้นที่ได้ มีเพียงใจที่เฝ้ารอเท่านั้นว่า คงจะไม่ใช่ตนที่จะไดรับรู้ด้วยตัวเอง
มีความแตกต่างกันระหว่างอุบัติเหตุ กับก่อเหตุการณ์ร้าย ต่างกันตรงที่ความตั้งใจ และความบังเอิญ ความหวาดกลัวของผู้คนที่เกิดขึ้นกับเหตุการณ์ที่เป็นอุบัติเหตุ จะส่งผลให้พวกเขาเหล่านั้น ระแวดระวังภัย มีสติ และดำรงชีวิตด้วยความไม่ประมาท แต่ในเมื่อเสียงดังในวันนี้ ไม่ใช่เสียงพลุแห่งงานฉลอง แต่เป็นเสียงระเบิดที่คร่าชีวิตผู้คน ใครกันจะทันล่วงรู้ ว่านี่คือการก่อการร้าย
เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน เพื่อนของข้าพเจ้าคนหนึ่ง ปรารภให้ฟังถึงเหตุการณ์ไม่สงบในจังหวัดของเขา เขาเอ่ยขึ้นว่า
“อยู่ที่กรุงเทพฯสบายกว่าเยอะ”
เพื่อนของข้าพเจ้าพูดถูก ที่นี่มีกำลังรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่ แต่..มันไม่ได้ทันท่วงทีทุกครั้งหรอกเพื่อน เราต่างใช้ชีวิตในกองเพลิงสงครามเท่ากัน นายจำไว้
อีก 6 ชั่วโมง จะสิ้นปี พ.ศ.2549.เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ข้าพเจ้าไม่ใคร่แน่ใจนักว่า ใครเป็นผู้กระทำ เพราะศัตรูทางความคิดในปัจจุบันมีมากมายเหลือเกิน แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจน คือการทำลายบรรยากาศ และขวัญของผู้คน ที่จะเริ่มจดจำไปตลอดปีใหม่ที่กำลังจะเดินทางเข้ามา ความตายเข้ามามีบทบาทและเขย่าท่าทีของผู้นำประเทศ
7 จุดที่ได้รับรายงานว่ามีระเบิดไม่ทราบชนิดกำลังไหลออกจากปากผู้สื่อข่าวช่องต่างๆ ไม่นานจากนั้น รายชื่อของผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ทยอยรายงานเข้ามาเป็นระยะ ข้าพเจ้าฟังรายชื่อแล้วให้ถอนหายใจ ที่รายชื่อเหล่านั้นไม่ใช่ญาติพี่น้อง หรือคนรู้จัก แต่ที่น่าอนาถใจยิ่งกว่า คือหนึ่งในนั้นคือเด็กน้อย อายุ 10 ขวบได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิด เธอคือเหยื่อความโหดเหี้ยม ในคืนที่ทุกคนต่างพร้อมมอบความสุขให้กัน และยินดีเริ่มต้นกันใหม่ คืนส่งท้ายปีเก่า
จุดที่ 1 เกิดระเบิดย่านอนุสาวรีย์ชัยฯ
จุดที่ 2 หน้าตลาดคลองเตย
จุดที่ 3 ใกล้แยกสะพานควาย
จุดที่ 4 ซอยสุขุมวิท62
จุดที่ 5 บริเวณห้างซีคอนสแคว์
จุดที่ 6 ระเบิดที่ย่านเยาวราช
จุดที่ 7 แมคโคร แจ้งวัฒนะ
หวังว่า จุดต่อไป จะคือจุดจบของผู้ก่อการร้าย..ฉันภาวนา.